คลื่นเสียง
(Sound wave)
ธรรมชาติของเสียง
การเกิดเสียง
คลื่นเสียงเกิดจากการสั่นของแหล่งกำเนิดเสียง
โดยพลังงานจากการสั่นจะถ่ายโอนให้กับโมเลกุลของอากาศโดยรอบ
แล้วถ่ายโอนพลังงานให้กับโมเลกุลใกล้เคียง โมเลกุลต่อโมเลกุล
โมเลกุลของอากาศจะเคลื่อนที่กลับไปกลับมา แบบ SHM แนวเดียวกับการเคลื่อนที่ของคลื่นเสียงดังนั้น
เสียงจึงเป็นคลื่นตามยาว
อากาศช่วงอัดของอากาศจะมีความดันสูงกว่าความดันปกติและในช่วงขยายจะมีความดันต่ำกว่าความดันปกติ และจากกราฟจะสังเกตได้ว่ากราฟการกระจัดจะนำกราฟความดันอยู่
90 องศา
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเสียง
1.เสียงเป็นคลื่นกลตามยาวและเกิดจากการสั่นของอนุภาคตัวกลาง
2.เสียงดัง
แสดงว่า อนุภาคสั่นแรง มีพลังงานสูง มีการเปลี่ยนแปลงความดันอากาศมาก
3.เสียงค่อย
แสดงว่า อนุภาคสั่นเบา มีพลังงานต่ำ มีการเปลี่ยนแปลงความดันอากาศน้อย
4.เมื่อโมเลกุลของอากาศหนาแน่นมาก
ใจกลางนั้น โมเลกุลอากาศจะหยุดนิ่ง การกระจัดเป็นศูนย์ ความดันจะสูงที่สุด
5.เมื่อโมเลกุลของอากาศเบาบางมาก
ใจกลางนั้น โมเลกุลอากาศจะหยุดนิ่ง การกระจัดเป็นศูนย์ ความดันจะต่ำที่สุด
6.ส่วนอัดถึงส่วนขยายจะห่างกันครึ่งนึงของความยาวคลื่น
อัตราเร็วของเสียง
จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของตัวกลาง เช่น ความหนาแน่น ความยืดหยุ่น เป็นต้น
ถ้าพิจารณาเฉพาะแก๊สจะพบว่า ถ้าแก๊สมีอุณหภูมิสูงจะทำให้มีพลังงานจลน์มาก การถ่ายโอนพลังงานก็จะเร็วขึ้นจึงทำให้มีอัตราเร็วสูงขึ้น จะได้ว่า
“อัตราเร็วของเสียงแปรผันตรงกับรากที่สองของอุณหภูมิสัมบูรณ์ (K)”
การคำนวณการเคลื่อนที่ของเสียง
เสียงจะเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วคงที่เสมอในตัวกลางหนึ่งๆ ฉะนั้นสมการการเคลื่อนที่ของเสียงจะใช้ตามสมการของคลื่นคือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น